ครั้งนี้เป็นการมาเที่ยวน่านครั้งที่เท่าไรไม่รู้ รู้แต่ว่ามาเมื่อไรก็มีแต่ความสุขมีสถานที่ให้เที่ยวหลากหลายแบบ มีทั้ง วัด พิพิธภัณฑ์ ภูเขา น้ำตก ให้ได้เลือกเที่ยวจะมาฤดูกาลไหนก็สนุกและการมาเที่ยวครั้งนี้ใช้บริการเช่ารถตู้วีไอพีน่าน สะดวกสบายไม่ต้องขับรถเอง ยิ่งมาเที่ยวน่านช่วงฤดูฝนก็จะเจอพื้นที่สีเขียวเต็มไปหมดยอดเขาก็ถูกปกคลุมด้วยไอหมอก แต่วันนี้จะพาทุกคนไปไหว้พระ 8 วัดในน่านกัน จะทั้งสวยงาม ยิ่งใหญ่ เหมือนที่วาดไว้หรือเปล่าไปกันเลยย...
วัดแรกที่แนะนำก็ต้องเป็น “วัดมิ่งเมือง” วัดที่เป็นที่ประดิษฐานเสาหลักเมืองของจังหวัดน่าน ลักษณะเด่นของวัดนี้ คือ ตัวพระอุโบสถเป็นสีขาวทั้งหลัง ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแสดงวิถีชีวิตของชาวน่าน ผนังด้านนอกเป็นลวดลายปูนปั้น ซึ่งเป็นฝีมือตระกูลช่างเชียงแสน มีลักษณะลวดลายที่สวยงาม ส่วนเสาหลักเมืองก็จะตั้งเด่นด้านหน้าพระอุโบสถสูง 3 เมตร เมื่อเดินเข้ามาก็จะเจอเลยและชื่อเดิมของเสาหลักเมืองน่าน คือ “เสามิ่งเมือง” เริ่มเป็นที่แรกเพื่อความเป็นศิริมงคล
วัดที่สองวัดนี้จะออกจากเมืองไปนิดหน่อยครับใช้เวลา 9 นาทีวัดนี้ชื่อว่า “วัดพระธาตุเขาน้อย” จุดเด่นของวัดนี้คือจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวโดยรอบของเมืองน่านได้และเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร บนฐานดอกบัวสูง 9 เมตร ยอดเกศาทำจากทองคำหนัก 27 บาท ซึ่งบริเวณเป็นที่นิยมอย่างมากของนักท่องเที่ยวที่มาทำบุญและได้ชมบรรยากาศทั่วเมืองน่านในที่เดียวและถ้าหากมาเที่ยวช่วงหน้าฝนหรือหน้าหนาวก็จะเจอกับหมอกปกคลุมทั่วบริเวณได้ชมวิวสวยไปในอีกแบบ (ห้ามพลาดที่จะมาเที่ยว)
วัดที่สามใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 7 นาทีก็ถึงวัดนี้ชื่อว่า “วัดศรีพันต้น” เป็นวัดที่มองไกล ๆ ก็ยังเห็นความสวยงามอลังการเพราะว่าตัวพระอุโบสถเป็นสีทองระยิบระยับทั้งหลัง ทางขึ้นบันไดด้านหน้าอุโบสถก็มีรูปปั้นพญานาคเจ็ดเศียรเฝ้าบันไดอยู่ทั้งสวยงามและดูน่าเกรงขาม ภายในอุโบสถมีลวดลายประวัติความเป็นมาของพระพุทธเจ้า และประวัติการกำเนิดของเมืองน่าน
วัดที่สี่ “วัดภูมินทร์” มาเที่ยวน่านเมื่อไรก็ต้องแวะทุกครั้ง ไม่พูดถึงไม่ได้เลยกับจุดเด่นของวัดนี้ คือ ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ที่แสดงเรื่องราวชาดก วิถีชีวิตและตำนานพื้นบ้านของชาวน่านในอดีตและรูปภาพที่มีชื่อเสียงที่สุด ภาพจิตรกรรมปู่ม่านย่าม่าน หรือที่เรียกว่า กระซิบรัก เป็นผลงานของหนานบัวผัน จิตรกรท้องถิ่นเชื้อสายไทลื้อเป็นผู้วาด (ใครที่ยังไม่เคยเห็นต้องลองไปดูครับ)
วัดที่ห้า “วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร” ตั้งอยู่ตรงข้ามกับพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติน่าน วัดนี้มีอายุมากกว่า 200 ปี ภายในวัดมีพระอุโบสถหลังใหญ่ สถาปัตยกรรมเป็นแบบล้านนาเป็นที่ประดิษฐานของพระประธานองค์ใหญ่ ถัดมาก็จะมีหอไตร ลักษณะโครงสร้างเหมือนพระอุโบสถ มีสิงห์ยืนอยู่ตรงหน้าเชิงบันไดปัจจุบันถูกปรับปรุงให้เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธนันทบุรีศรีศากยมณีพระพุทธรูปสุโขทัยปางลีลา ด้านหลังของหอไตรจะเป็นที่ประดิษฐานของเจดีย์ช้างค้ำ ทรงลังการครึ่งตัวประดับอยู่โดยรอบด้านละ 6 เชือก รวมทั้งหมด 24 เชือก ซึ่งเป็นศิลปะน่านที่รับผ่านอาณาจักรสุโขทัยในอดีต
วัดที่หก “วัดหัวข่วง” วัดนี้เป็นวัดเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่หัวมุมถนนมหาพรหม อ.เมืองน่าน พระอุโบสถและเจดีย์มีลักษณะศิลปกรรมแบบท้องถิ่นล้านนาข้าง ๆเจดีย์ก็จะเป้นหอไตรเป็นลักษณะทรงสี่เหลี่ยมจตุรมุข ใต้ถุนก่อทึบและธรรมาสน์ทรงสี่เหลี่ยมยอดเป็นรูปน้ำเต้าสลักลายลงรักปิดทองประดับกระจกเป็นที่เก็บ พระไตรปิฎกและคัมภีร์โบราณ
วัดที่เจ็ด “วัดสวนตาล” วัดนี้เป็นวัดที่เงียบสงบ ผู้คนไม่พลุพล่าน เมื่อขับรถเข้ามาสิ่งแรกที่เห็นเลยคือบ่อน้ำโบราณซึ่งตั้งอยู่หน้าบริเวณทางเข้าวัด (ซึ่งมีข้อห้ามว่าผู้หญิงไม่ควรเข้าไปใกล้บริเวณบ่อ) วัดสวนตาลเป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 600 ปี ไฮไลท์ที่ผู้คนนิยมไปกราบไหว้ คือ พระเจ้าทองทิพย์ พระพุทธรูปสำริด ปางมารวิชัย ส่วนทางด้านหลังของพระอุโบสถ จะเป็นที่ประดิษฐานเจดีย์ ที่บรรจุ พระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ไว้
วัดที่แปดวัดสุดท้ายของการเที่ยวน่านครั้งนี้ “วัดพระธาตุแช่แห้ง” วัดประจำจังหวัดน่านและเป็นวัดประจำปีเกิดของคนที่เกิดปี “เถาะ” ซึ่งน่าจะมีอายุราว ๆ 600 ปี โดยทุกปีจะมีการจัดงานนมัสการ ‘พระบรมธาตุแช่แห้ง’ ขึ้นทุกปี จะจัดในช่วงระว่างวันขึ้น 11 ค่ำ ถึง 15 ค่ำ เดือน 6 ของทางภาคเหนือ อยู่ในระหว่างปลายเดือนกุมภาพันธ์ หรือ ต้นเดือนมีนาคม (แต่น่าเสียดายช่วงที่ไปเที่ยวพระธาตุแช่แห้งกำลังปรับปรุงจึงไม่ได้ชมความสวยงามขององค์พระธาตุเลยแต่ก็เก็บรูปภาพรอบ ๆ มาแทนสวยงามและยิ่งใหญ่)
>>> สนใจมาเที่ยวน่านติดต่อบริการเช่ารถตู้วีไอพีน่าน ของเราได้ครับ@VAN HIRE VIP PHRAE บริการเช่ารถตู้แพร่VIP
สนใจติดต่อสอบถาม