มาเที่ยวเหนือเมืองต๊ะต่อนยอน...แล้ว นอกจากธรรมชาติที่สวยงามผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใส เรื่องอาหารก็คงต้องบอกว่าเด็ดไม่แพ้กันมีอาหารหลากหลายประเภท แต่ที่คนส่วนใหญ่รู้จักก็คงจะเป็น น้ำพริกหนุ่มแคบหมู ไส้อั่ว แกงฮังเล ข้าวซอยไก่ ขนมจีนน้ำเงี้ยว น้ำพริกอ่อง เป็นต้น แต่วันนี้จะพามารู้จักกับอาหารเหนือให้ลึกยิ่งขึ้น เพราะภาคเหนือมีผู้คนหลายเชื้อชาติเข้ามาอยู่อาศัยทำให้อาหารมีความหลากหลายมาก แต่ละที่ก็มีรสชาติที่ต่างกัน ไปรู้จักกับอาหารอย่างแรกเลย....
วิธีทำก็ไม่ยากโขลกน้ำพริกส่วนผสมมี พริกแห้ง/กระเทียม/หัวหอม/ข่า/ผงชูรส ระหว่างที่โขลกน้ำพริกก็นำขนุนดิบไปต้มจนสุกแล้วแกะเนื้อมาตำรวมกับเนื้อขนุน เมื่อตำจนเข้ากันก็นำมาผัดกับน้ำมันและเนื้อหมูปรุงรสด้วยผงปรุงรส น้ำปลา ใส่ใบมะกรูดซอย ผัดให้คลุกเคล้าเข้ากันทั้งหมดแล้วปิดไฟ มีรสชาติกลมกล่อมหอมเครื่องตำเมื่อกินเข้าไปก็จะได้กลิ่นหอมของกระเทียมที่นำไปผัดและกลิ่นใบมะกรูดซอย กินกับแคบหมูหรือข้าวเหนียวร้อน ๆ อร่อยมาก
2. แกงผักปลังใส่แหนมหมู หรือที่คนเหนือเรียกว่า แกงผักปลั๊งใส่จิ้นส้มหมู/เนื้อ
เริ่มต้นก็โขลกน้ำพริก ส่วนผสมมี พริกสด/กระเทียม/ตะไคร้/ปลาร้า/ผงชูรส ระหว่างโขกก็นำหม้อมาตั้งไฟรอเดือด เมื่อน้ำเดือดก็ใส่น้ำพริกที่โขลกไว้ใส่ลงไป รอเดือดอีกครั้งใส่ผักปลังลงไปในหม้อรอสุกปิดไฟได้เลย รสชาติแกงผักปลังมีเปรี้ยวจากแหนม น้ำของแกงจะมีสีใสหนืดที่เกิดจากยางของผักปลังซึ่งถือเป็นลักษณะเด่นของผักชนิดนี้และยังมีคุณสมบัติเป็นยาระบายอ่อน ๆ อีกด้วย
3. แกงแคไก่/หมู/เนื้อ
เริ่มต้นก็โขลกพลิก ส่วนผสมก็จะเยอะขึ้นเพราะต้องดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ ส่วนผสมมี พริกแห้ง/กระเทียม/หัวหอม/ข่า/ตะไคร้/ผงชูรส/เกลือ โขลกร่วมกันจนละเอียด จากนั้นเตรียมผักที่จะนำมาใส่มี ตำลึง/ชะอม/ชะพลู/ถั่วฝักยาว/มะเขือเปราะ/มะเขือพวง/ดอกงิ้วแห้ง/เห็ดลมอ่อน/ถั่วพู/ผักเผ็ด/ดอกข่า/ใบมะกรูด ล้างให้สะอาด ตั้งหม้อเปิดไฟนำพริกแกงที่โขลกไว้น้ำมาผัดให้หอมจากนั้นนำเนื้อสัตว์ลงไปผัดจนเกือบสุกปรุงรสด้วยน้ำปลาจากนั้นเดิมน้ำลงหม้อรอเดือดใส่ผักลงได้รอผักสุกปิดไฟได้เลย รสชาติแกงแคคำแรกจะได้กลิ่นของเครื่องแกงเต็ม ๆ แต่ไม่ใช่กลิ่นฉุนมีรสเค็มนิด ๆ เผ็ดร้อน กลมกล่อมกินกับข้าวเหนียวหรือข้าวสวยก็ได้
4. ส้าใบม่วง
ส่วนผสมน้ำพริกมี พริกแห้ง/ข่า/กระเทียม/หัวหอม โขลกร่วมกันจนละเอียด จากนั้นนำใบมะม่วงอ่อนมาซอย นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำนำปลาร้ามาใส่รอน้ำเดือดปรุงรสด้วยน้ำปลา เมื่อเดือดก็นำน้ำพริกมาลงพร้อมกับเนื้อปลาจะเป็นปลาแห้งหรือปลากระป๋องต้มสักพักก็ใส่ใบมะม่วงอ่อนที่ซอยไว้ตามลงไปรดเดือดใส่ต้นหอมผักชีปิดไฟได้ รสชาติคล้ายต้มยำแต่ได้กลิ่นน้ำพริกน้ำปลาร้า อร่อยอย่าบอกใคร
5. แกงหัวปลีใส่ปลาแห้ง
เริ่มต้นจากการโขลกน้ำพริก ส่วนผสมมี พริกสด/ข่า/ตะไคร้/กระเทียม/หัวหอม/ปลาร้า/ชูรส โขลกร่วมกัน นำหัวปลีที่ได้มาทำความสะอาดหั่นให้พอดีคำไม่ใหญ่เกินไม่เล็กเกินแช่น้ำที่ใส่เกลือไว้เพื่อกันไม่ให้ดำ และหันมาเตรียมผักที่ต้องใส่มี ชะอม/ใบชะพลู หลังจากนั้นนำปลาแห้งที่ได้ขึ้นตั้งไฟต้มจนเนื้อปลานุ่ม พอน้ำเดือดใส่น้ำพริกได้เลยปรุงรสด้วยน้ำปลาและตามด้วยหัวปลีที่หั่นไว้รอปลีสุกเป็นอันทานได้ รสชาติจะมีกลิ่มหอมของปลาแห้ง กลมกล่อม ไม่เผ็ดมาก (เมนูนี้ช่วยกระตุ้นน้ำนมคุณแม่ได้ดี)
6. แกงไก่ใส่ฟักเขียว
เริ่มต้นโขลกน้ำพริก ส่วนผสมมี พริกแห้ง/กระเทียม/หัวหอม/ตะไคร้/ข่า/ปลาร้า/ชูรส โขลกร่วมกัน จากนั้นนำฟักที่ได้ปลอกเปลือกและหั่นให้พอดีคำล้างแล้วนำมาคลุกกับน้ำตาลนิดหน่อยเพื่อให้ตัวฟักมีความหวาน ส่วนเนื้อไก่ก็หั่นให้พอดีคำเตรียมไว้ ผักที่ใส่ก็จะมี ใบมะกรูด/ผักชี เมื่อเตรียมครบแล้วตั้งหม้อนำน้ำพริกกับไก่มารวนด้วยกันพดเครื่องแกงหอมไก่สุกก็เดิมน้ำเปล่ารอเดือด เมื่อน้ำเดือนใส่ฟักลงไปได้เลยปรุงรสด้วยน้ำปลา/ผงปรุงรส ต้มจนฟักสุกนำผักที่เตรียมไว้ใส่ลงไปปิดไฟทานได้ รสชาติจะมีความหวานของฟัก ได้กลิ่นเครื่องแกงไม่เผ็ดมาก อร่อย
7. ตำมะม่วง (ต้องเป็นมะม่วงเปรี้ยว)
เริ่มต้นเตรียมส่วนผสมมี มะม่วง/ปลาแห้ง/พริกแห้ง/หัวหอม/กระเทียม/ชูรส/ปลาร้า ผักแกล้มมี ตำลึง/กระหล่ำปลี/ใบชะพลู/ดอกแค/ผักหนาม/ผักชูรส/หญ้าตดหมาหรือผักื่น ๆ ตามความชอบ ขั้นตอนแรกนำมะม่วงเปรี้ยวที่ได้มาปอกเปลือกขูดเนื้อออกจากนั้นนำมะม่วงมาคั่นกับเกลือแล้วล้างน้ำเปล่าทำแบบนี้เพื่อลดความเปรี้ยวของมะม่วงลง ล้างแบบนี้จนได้ความเปรี้ยวที่ต้องการ ขั้นตอนที่ 2 นำผักแกล้มที่ได้นำมาลวก ขั้นตอนที่ 3 นำพริกแห้ง กระเทียม หัวหอม ปลาแห้งไปย่างให้สุกให้หอม ตำพริกแห้งกระเทียมหัวหอมชูรสปลาร้าให้ละเอียดแล้วตามด้วยปลาแห้งตำจนได้ความละเอียดที่พอใจใส่มะม่วงที่คั่นไว้ลงไปตำด้วยตำจนเข้ากันชิมแล้วปรุงรสตามความชอบ รสชาติมีรสเปรี้ยวที่ได้จากมะม่วงหอมกลิ่นปลาแห้ง เผ็ดนิดหน่อยรสกลมกล่อมกินกับผักแกล้มที่ลวกแล้วพร้อมแคบหมู อร่อยมาก
8. แกงหน่อไม้ดอง หรือที่ภาษาเหนือเรียกว่า แกงหน่อไม้ส้ม สามารถใส่เนื้อ ไก่ หมู ปลา หรือตามความชอบได้เลย
ขั้นตอนแรกนำหนอไม้ดองมาล้างน้ำเพื่อให้ความเค็มและความเปรี้ยวลดลง นำไปต้มแล้วล้างน้ำออกประมาณ 2-3 รอบจากนั้นมาเตรียมส่วนผสมพริกแกงมี พริกสด/หัวหอม/กระเทียม/ตะไคร้/ขมิ้น/ปลาร้า/ชูรส โขลกให้เข้ากันจนละเอียด ผักที่ใส่ก็จะมี ใบแมงลัก เมื่อต้มหนอไม้ได้ความเปรี้ยวที่พอดีก็นำมาตั้งไฟใสพริกแกงลงไปรอเดือดใส่เนื้อสัตว์ตามลงไปรอเดือดอีกครั้งปรุงรสตามความชอบใส่ใบแมงลักลงไปปิดไฟ ตักใส่ถ้วยได้เลย รสชาติมีความเปรี้ยวแต่ไม่ได้เปรี้ยวจี้ด อร่อยกลมกล่อม ใครได้กินรับรองติดใจ
9. แกงบอนใส่หนังหมู
เริ่มต้นนำบอนที่ได้มาล้างน้ำให้สะอาดนำไปนึ่งจนเปื่อย จากนั้นเตรียมส่วนผสมน้ำพริกมี พริกแห้ง/กระเทียม/หัวหอม/ตะไคร้/ปลาร้า โคลกให้ละเอียด ผักที่ใส่ก็จะมี ใบมะกรูด/ยอดส้มป่อย เมื่อเตรียมส่วนผสมส่วนประกอบครบถ้วนก็เริ่มการทำโดยนำน้ำพริกไปผัดให้มีกลิ่นหอมจากนั้นนำบอนที่นึ่งจนเปื่อยมาผัดด้วยใส่หนังหมู เนื้อหมู หรือหนังควาย(ต้องนำไปต้มจนนิ่ม)ตามด้วยน้ำเปล่านิดหน่อยยอดส้มป่อยเพื่อเพิ่มความเปรี้ยวหรือว่าหากยังไม่ซะใจเอาน้ำมะขามมาใส่ได้หรือมะกรูดก็ได้ (ถ้าชอบเปรี้ยวมากก็ใส่มาก) คนให้เข้ากันรอจนน้ำในแกงแห้งก็ใส่ใบมะกรูดปิดไฟทานได้ รสชาติเปรี้ยวนิดๆ กลิ่นหอมของบอน (เมนูนี้บ้างคนบางพื้นที่จะเอาไปใส่ในกระบอกไม้ไผ่อีกทีมีเครื่องปรุงเหมือนกันแต่ต่างตรงที่ไม่เอาน้ำพริกไปผัดแต่จะเอาน้ำพริกไปคนกับบอนให้เข้ากันแล้วตักใส่กระบอกไม้ไผ่แล้วนำไปย่างไฟคอยเติมน้ำคนด้วยไม้ไผ่จนสุก เมนูนี้เรียกว่า หลามบอน)
10. ตำมะเขือม่วง หรือที่ภาษาเหนือเรียกว่า ตำม่ะเขือหำม้า
ส่วนผสมมี มะเขือม่วง/พริกสด/กระเทียม/ปลาร้า/ชูรส ผักแกล้มมี ต้นหอม/ใบสาระแหน่/ยอดผักกระถินหรือผักอื่น ๆ ก็ได้ตามความชอบ เริ่มต้นจากนำมะเขือไปย่างให้เปลือกไหม้พอสุกแกะเปลือกที่ไหม้ออก จากนั้นนำปลาร้าไปต้มระหว่างรอนำพริกสดไปย่างพอให้ไหม้นิด ๆ เมื่อได้แล้วนำมาตำใส่กระเทียมชูรสตำจนละเอียดนำมะเขือที่แกะแล้วลงมาตำด้วยตำจนเข้าด้วยกันปรุงรสด้วยปลาร้าที่ต้มกับน้ำปลาเป็นอันเสร็จ โรยหน้าด้วยต้นหอม แต่ถ้าจะให้อร่อยเพิ่มมากขึ้นก็ต้องกินคู่กับไข่ต้ม+แคบหมู รับรองกินแล้วจะติดใจ รสชาติมีรสหวานของมะเขือ ไม่เค็มไม่เผ็ดมาก กลมกล่อม อร่อย
เป็นไงกันบ้างกับอาหารเหนือท้องถิ่น 10 จานที่นำมาเสิร์ฟจะมีใครพอรู้จักหรือเคยได้ยินได้ชิมมาก่อนบ้างหรือเปล่า อาหารเหนือแบบท้องถิ่นแท้ ๆ หากินยากที่มีขายก็ถูกปรับปรุงสูตรให้คนทานง่ายขึ้น จึงไม่แปลกที่รสชาติอาจจะแปลก ๆ ไปบ้าง ถ้าอยากลองทานอาหารท่องถิ่นแบบแท้ ๆ ก็คงต้องมาที่ภาคเหนือเท่านั้นมีขายตามตลาดสดทั่วไป และการเดินทางจะสะดวกมากยิ่งขึ้นเมื่อได้ใช้บริการเช่ารถตู้ VIP พร้อมคนขับ ให้บริการทั่วภาคเหนือ สามารถออกต่างจังหวัดได้ สนใจติดต่อได้ที่ 063-096-4955
@VAN HIRE VIP PHRAE บริการเช่ารถตู้แพร่VIP
สนใจติดต่อสอบถาม