1.วัดร่องขุ่น
วัดร่องขุ่น คือจุดหมายแรกที่ไม่ควรพลาด เพราะเป็นวัดที่มีความงดงามอลังการที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ออกแบบก่อสร้างโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ซึ่งได้สร้างงานพุทธศิลป์นี้เพื่อถวายเป็นงานศิลปะแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ด้วยอุโบสถสีขาวประดับด้วยกระจกสีเงินแวววาว และลวดลายปูนปั้นอันวิจิตรเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงประดับด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงามประณีตชนิดที่เห็นแล้วต้องตะลึง
2. วัดพระแก้ว เชียงราย
วัดพระแก้ว คือหนึ่งในวัดสำคัญของจังหวัดเชียงราย เพราะเป็นสถานที่ค้นพบพระแก้วมรกต โดยในสมัยพระเจ้าสามฝั่งแกน ได้เกิดฟ้าผ่าเจดีย์ร้างองค์หนึ่งจนพังทลายลงมา และพบว่ามีพระพุทธรูปลงรักปิดทองตกลงมา เมื่อรักกระเทาะออกจึงเห็นเป็นแก้วสีเขียวทั้งองค์
3. เชียงรายไนท์บาซาร์
ถนนคนเดินตอนกลางคืน ที่เต็มไปด้วยร้านรวมขายสินค้ามากมาย ทั้งสินค้าพื้นเมือง ชุดพื้นเมือง งานศิลปะต่างๆ ของทำมือ ของที่ระลึก ไปจนถึงของใช้ทั่วไป เสื้อผ้า เครื่องประดับ และอาหารอร่อยๆ เรียกว่าเดินดูเดือนเลือกได้แบบเพลินๆ
4. วัดร่องเสือเต้น
วัดร่องเสือเต้น เป็นที่วัดมีวิหารที่มีความสวยงามโดดเด่น สร้างและออกแบบโดยศิลปินพื้นบ้านชาวเชียงราย นายพุทธา กาบแก้ว หรือ สล่านก ที่นี่มีความโดดเด่นในการออกแบบด้วยศิลปะแนวประยุกต์ โดยใช้โทนสีน้ำเงินและสีฟ้าเป็นหลัก ตัดกับสีทองเพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับวิหาร ส่วนภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ สีขาวมุกงดงาม บริเวณพระเศียรก็ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้
5. วัดห้วยปลากั้ง เชียงราย
วัดห้วยปลากั้ง เป็นวัดซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา เห็นได้แต่ไกลค่ะ เพราะมีความโดดเด่นมากๆ พบโชคธรรมเจดีย์ ซึ่งมีความสูงถึง 9 ชั้นด้วยกัน โดยเป็นสถาปัตยกรรมศิลปะแบบจีนผสมเข้ากับล้านนาอันมีเอกลักษณ์เลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังมี องค์เจ้าแม่กวนอิม ที่สูงที่สุดในประเทศไทย ประดิษฐานอยู่ด้วย มีความเชื่อที่ว่าใครได้มาไหว้ขอพรในเรื่องสุขภาพ การเงิน การงาน ก็จะได้รับพรกลับไปให้สมหวังกันด้วย
1. สวนแม่ฟ้าหลวง
สวนแม่ฟ้าหลวง ตั้งอยู่ด้านหน้าพระตำหนักดอยตุง เต็มไปด้วยสวนดอกไม้เมืองหนาวที่พร้อมใจกันเบ่งบานอวดความสวยงาม เช่น กุหลาบ พิทูเนีย และบีโกเนีย อีกทั้งยังมีไม้มงคล ไม้ยืนต้น และซุ้มไม้เลื้อย และเป็นสวนดอกไม้หมุนเวียนสลับไปทุกฤดู มีสวนปาล์ม ภูเขาหินต่างๆ ภายในสวนก็จะมีสวนดอกไม้ต่างๆ โรงเรือนไม้ในร่ม จุดเด่นคือกล้วยไม้จำพวกรองเท้านารีชนิดต่างๆ และ งานประติมากรรมเด็กยืนต่อตัว ซึ่งได้รับพระราชทานชื่อว่า “ความต่อเนื่อง”
2. พระธาตุดอยตุง
พระธาตุดอยตุง ซึ่งมีความเก่าแก่สวยงาม ตั้งอยู่บนยอดเขาที่สามารถมองเห็นวิวเมืองเชียงรายได้อย่างเต็มตาค่ะ มีลักษณะเป็นเจดีย์สีทองอร่าม 2 องค์คู่กันงดงาม และเป็นพระธาตุประจำปีกุน ตามความเชื่อล้านนาอีกด้วย
3. พระตำหนักดอยตุง
พระตำหนักดอยตุง หรือ พระตำหนักสมเด็จย่า เป็นตำหนักปลูกสร้างบนเนินเขารายล้อมด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ เกิดขึ้นโดยพระราชดำริของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างขึ้น เพื่อเป็นที่จะได้ทรงแปรพระราชฐานมาทรงงานที่นี่ พระตำหนักมีความโดดเด่นทางสถาปัตยกรรมเป็นศิลปะแบบล้านนา ที่เป็นบ้านปีกไม้ มีกาแล ผสมกับลักษณะบ้านพื้นเมืองของชาวสวิตเซอร์แลนด์ที่เรียกว่า ชาเล่ต์ มีไม้แกะสลักเป็นเชิงลายเมฆไหลอ่อนช้อน เน้นความเรียบง่ายแต่ใช้สอยได้อย่างครบครัน
4. สิงห์ปาร์ค เชียงราย
สิงห์ปาร์ค เชียงราย คือหนึ่งในแลนด์มาร์ที่ต้องแวะเช็คอินถ่ายรูป โดยเฉพาะกับสิงห์ตัวยักษ์สีเหลืองทองด้านหน้าทางเข้า ภายในไร่มีกิจกรรมน่าสนใจมากมาย ทั้งการนั่งรถรางชมไร่ ซึ่งมีพื้นที่กว่า 8,000 ไร่ ปลูกพืชผัก ผลไม้ไว้หลายชนิด รวมถึงมีสระน้ำขนาดใหญ่หลายแห่ง ชมไร่ชาอู่หลงที่ปลูกเป็นแถวสวยงาม ชมชีวิตสัตว์น่ารัก อย่างยีราฟ ม้าลาย วัววาตูซี่ รวมถึงสนุกสนานไปกับการเล่นซิปไลน์สุดหวาดเสียว และปั่นจักรยานเที่ยวชมไร่ ชมความงดงามของสวนดอกไม้ที่บานสวยท้าลมหนาว
5. ไร่ชาฉุยฟง
ชมไร่ชาสีเขียวที่ปลูกลดหลั่นเป็นขั้นบันได รายล้อมด้วยภูเขาสูงของจังหวัดเชียงราย เป็นแหล่งปลูกชาชั้นดีของ บริษัท ฉุยฟงที จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตใบชารายใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงรายมากว่า 40 ปี นอกจากการชมความงดงามของไร่ชากว้างแล้ว แน่นอนว่าที่นี่ชาให้ได้ชิม และมีร้านอาหารอร่อยๆ บริการ ส่วนใครที่ชอบถ่ายภาพ ห้ามพลาดการสวนชุดชาวเขาถือตะกร้าโพสต์ท่าเก็บใบชากันด้วย
6. พิพิธภัณฑ์ บ้านดำ
บ้านดำ หรือ พิพิธภัณฑ์บ้านดำ ของ อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะอันทรงคุณค่า ที่พิพิธภัณฑ์บ้านดำ ประกอบด้วยบ้านทั้งหมด 36 หลัง สร้างด้วยศิลปะซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากล้านช้าง ล้านนา และสุวรรณภูมิ มีเอกลักษณ์คือทาด้วยสีดำทั้งหมด ภายในเป็นที่จัดเก็บผลงานศิลปะและของสะสมของอาจารย์ ทั้งงานจิตรกรรม ประติมากรรม และของสะสมจากทั่วโลก
7. ตลาดแม่สาย
ตลาดแม่สาย แหล่งช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองและสินค้าราคาถูก เช่น สบู่สมุนไพร เครื่องทองเหลือง ขนมขบเคี้ยว เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า และของใช้ทั่วไป ที่นี่ยังมีผลไม้ราคาถูก รวมถึงเกาลัดคั่วที่ต้องซื้อติดมือทุกครั้งไป ส่วนใครที่อยากไปซื้อของที่ตลาดฝั่งเมียนมาร์ สามารถข้ามได้โดยใช้บัตรประชาชน ค่าบริการคนละ 30 บาท และค่าผ่านเขตแดนคนละ 10 บาท
8. สามเหลี่ยมทองคำ
สามเหลี่ยมทองคำ คือพื้นที่รอยต่อระหว่าง 3 ประเทศ คือไทย ลาว และเมียนมา มีลักษณะเป็นพื้นที่สามเหลี่ยมมาบรรจบกันโดยมีแม่น้ำโขงตัดผ่านชายแดนไทยและลาว เป็นจุดสำคัญทางเศรษฐกิจและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ นอกจากการแวะไปถ่ายรูปทิวทัศน์สามเหลี่ยมทองคำแล้ว ยังสามารถไหว้พระพุทธรูปองค์โต หรือนั่งเรือล่องไปตามน้ำโขง ชมทิวทัศน์ของสองฝั่ง สัมผัสความงามของธรรมชาติได้อีกด้วย
9. ภูชี้ฟ้า
ภูชี้ฟ้า เป็นยอดเขาสูงที่สุดในเทือกเขาดอยผาหม่น ติดชายแดนไทย-ลาว ค่ะ ด้วยความมีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติของลักษณะหน้าผาปลายยอดแหลม เป็นแนวยาวที่ชี้ไปบนฟ้าทางฝั่งประเทศลาว จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกว่า “ภูชี้ฟ้า” นั่นเอง
1. ภูฟ้าวารี เชียงราย รีสอร์ท (Phufa Waree Chiangrai Resort)
โรงแรมเชียงรายสุดหรู ที่มีการตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นโอเรียนทัล ผสมผสามกับความทันสมัยและวัฒนธรรมความเป็นล้านนาให้เข้ากันอย่างลงตัว ในส่วนของห้องพักมีให้เลือก 2 แบบ คือ โซนโรงแรม และโซนไพรเวทวิลล่า พร้อมกับครบครันไปสิ่งอำนวยความสะดวกสบายมากมาย และคาเฟ่สุดเก๋ ที่คนชอบถ่ายรูป เช็กอินลงโซเชียล พลาดไม่ได้
2. เอ สตาร์ ภูแล วัลเลย์ เชียงราย (A-Star Phulare Valley Chiang Rai)
เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ที่เน้นเรื่องความเอาใจใส่เรื่องบริการเป็นอย่างมาก พร้อมกับมีจุดเด่นที่บรรยากาศอันสวยงาม ที่รายล้อมไปทิวเขาอันเขียวขจีรอบรีสอร์ทแบบ 360 องศา ที่ใครได้พักแล้วต้องร้องว๊าวกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังเพรียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบายครบครัน
3. โรงแรม รสา บูทีค (RASA Boutique Hotel Chiangrai)
ที่มีความโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่มีกลิ่นอายแบบโมร็อคคัน และมีห้องพักสีสันสดใส โดยมีการใช้โทนสีภายในห้องแตกต่างกันในแต่ละชั้น ซึ่งให้ความรู้สึกการพักผ่อนที่ไม่เหมือนกัน นอกจากนี้ยังมีบริการอย่างครบครัน และมุมถ่ายรูปสวยๆอย่างกำแพงที่เจาะเป็นช่องซุ้มประตูโค้งสีสันสดใสไว้ให้เช็กอินโซเชียลอีกด้วย
4. เดอะ ริเวอร์รี บาย กะตะธานี
เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว บนเกาะกลางแม่น้ำกก ที่ล้อมไปด้วยสวนเขียวขจี และดอกไม้หลากหลายสีสัน อีกทั้งยังเดินทางสะดวกสบายเพราะอยู่ใจกลางเมืองด้วย ภายในก็จะเน้นการตกแต่งแบบร่วมสมัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน บนชั้นดาดฟ้า มีวิวชมพระอาทิตย์ตกดินและวิวเมืองเชียงรายยามค่ำ
1. อาสาฟาร์มสเตย์ (Ahsa Farmstay)
บรรยากาศดี อยู่ท่ามกลางทุ่งนาและไร่สวน ทำให้ภายในบริเวณที่พักเต็มไปด้วยอากาศสดชื่นแสนบริสุทธิ์ สัมผัสและความเป็นอยู่แบบพื้นเมืองอย่างแท้จริง มีห้องพักให้เลือกทั้งหมด 4 ห้อง โดยมีการตกแต่งในสไตล์เรือนไม้ทางภาคเหนือที่มีความเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความเก๋สะดุดตา นอกจากนี้ทางที่พักยังมีกิจกรรมให้ได้ร่วมสนุกมากมาย อาทิเช่น การทำกับข้าว การทำขนม การทำสปา และร่วมทำไร่ทำสวนแบบชาวบ้าน เป็นต้น
2. โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว เชียงของ (Fortune River View Hotel Chiang Khong)
ที่พักระดับ 4 ดาว บรรยากาศดี วิวอลังการ ตั้งอยู่อำเภอเชียงของ ที่รายล้อมไปด้วยขุนเขาและแม่น้ำ เหมาะแก่การพักผ่อนนอนชิลไปกับสายน้ำและธรรมชาติของป่าเขาเป็นอย่างมาก ภายในโรงแรมมีการตกแต่งในสไตลโคโลเนียล ที่มีการผสมผสานความเป็นตะวันตกและไทยพื้นเมืองซึ่งเข้ากันอย่างลงตัว
3. เดอะ ไวท์ เฮาส์ บูทิก รีสอร์ต (The White House Boutique Resort)
ที่พักอยู่ติดกับริมธารน้ำไหล จากน้ำตกขุนกรณ์ ทำให้ภายในบริเวณที่พักมีอากาศเย็นสบาย ในส่วนห้องพักมีให้ 3 แบบ คือ บ้านเดี่ยว บ้านไม้ และแคมป์ พร้อมกับบริการสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ทั้งห้องอาหาร คาเฟ่ ฟิสเนต และสระว่ายน้ำ ให้ได้ผ่อนคลายอย่างเต็มเปี่ยม
4. คาทิลิยา เมาน์เทน รีสอร์ท แอนด์ สปา (Katiliya Mountain Resort & Spa)
ตั้งอยู่กลางภูเขาอันอุดมสมบูรณ์ ที่มีการตกแต่งแบบไทยร่วมสมัย พร้อมกับผสมผสานคงวามหรูหราและธรรมชาติให้เข้ากันอย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีห้องพักให้เลือกมากถึง 90 ห้อง ที่เพียบพร้อมไปด้วยความสะดวกสบายมากมาย รวมไปถึงมีกิจกรรมอย่าง พายเรือ ปั่นจักรยาน ให้อาหารสัตว์ ให้ได้ร่วมอย่างเพลิดเพลินอีกด้วย
5. ภูใจใส เมาน์เทน รีสอร์ท (Phu Chaisai Mountain Resort)
มีคอนเซ็ปต์ที่พักคือ การพัฒนาเนินเขาไม้ไผ่ ให้กลายเป็นจุดมุ่งหมายแห่งการพักผ่อนที่มีความกลมกลืนกับธรรมชาติ เป็นสไตล์บูทีครีสอร์ท ซึ่งมีความเป็นชนบท เน้นความเรียบง่าย พร้อมกับตกแต่งโดยวัสดุอุปกรณ์ที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม เป็นที่พักที่เรียกว่า คนที่เลิฟธรรมชาติ ชอบความสงบเรียบง่าย พลาดไม่ได้กันเลย
6. ไร่ชา 101 กรีนวิว รีสอร์ท (101 Tea Green View Resort)
มีการตกแต่งในสไตล์ลอฟท์ปูนเปลือย ผสมผสมกับกลิ่นอายของวัฒนธรรมของชาวจีนยูนนานให้มีความเข้ากันอย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นที่ภาพวิวทิวทัศน์สุดสวยของไร่ชาอันกว้างขวางที่ฉากหลังเป็นภูเขาสลับไปมาอันงดงามจนเกินบรรยาย
1. ร้านสลุงคำ
ร้านอาหารที่มีการตกแต่งบรรยากาศสไตล์เหนือโบราณ มีโซนที่นั่งหลากหลายทั้งในร้าน ระเบียง หรือสวย และเป็นร้านที่ขึ้นชื่อเรื่องการพิถีพิถันตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบซึ่งต้องมีคุณภาพทุกครั้ง เพราะมีการสืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ มีเมนูอาหารพร้อมเสิร์ฟอยู่หลากหลาย อาทิเช่น ย่างรวม คอหมูย่าง ซี่โครงย่าง และไส้อั่ว
2. มาลองเต๊อะ เชียงราย
บรรยากาศร่มรื่น ให้อารมณ์ผ่อนคลาย นั่งทานอาหารแบบชิลๆ อาหารของเขาจะเน้นไปทางอาหารพื้นบ้านแบบประยุกต์เพื่อสุขภาพและอาหารเหนือรสเด็ด ถูกปาก จุดเด่นมีการตกแต่งจานให้มีความสวยงาม เหมาะแก่การถ่ายรูปเก๋ๆ มีเมนูห้ามพลาด ได้แก่ ข้าวผัดไส้อั่ว แกงผักปังใส่จิ้นส้ม สปาเกตตีน้ำพริกอ่อง และออร์เดิร์ฟเมือง
3. ร้านอาหารเหนือโตกตอง
มีอาหารให้เลือกทานอย่างหลากหลาย ทั้งอาหารล้านนา ขันโตก อาหารไทย และอาหารยอดนิยม ภายในร้านยังมีการตกแต่งให้รู้สึกถึงความอบอุ่น อีกทั้งยังมีการแสดงฟ้อนรำแบบล้านนา ขับกล่อมด้วยดนตรีสด เพลงคำเมือง
4. ร้านข้าวซอยวิจิตตรา
เป็นสูตรของตระกูลนกแล ที่ไม่ได้มีเพียงข้าวซอยไก่และข้าวซอยเนื้อธรรมดาเท่านั้น แต่ยังมีข้าวซอยปลาแซลมอล ข้าวซอยหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ข้าวซอยทะเลน้ำลึก ข้าวซอยกุ้งสด ข้าวซอยลูกชิ้นหมู และข้าวซอยลูกชิ้นปลา เรียกได้ว่า เป็นร้านเด็ดเชียงราย ที่พลาดไม่ได้กันเลย
5. ร้านหลู้ลำ เชียงราย
เป็นร้านอาหารเหนือแท้ๆ ในส่วนอาหารของเขาจะเน้นไปทางอาหารเหนือพื้นเมือง ที่มีรสชาติดั้งเดิม ซึ่งมีความอร่อยถูกปาก จนใครๆต่างยกนิ้วให้ มีเมนูแนะนำ คือ น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง แกงโฮะ ไส้อั่ว ลาบเหนือ เป็นต้น นอกจากอาหารเหนือทางร้านยังอาหารไทยรสเด็ดด้วย
ขอบคุณภาพสวยๆ จาก TrueID travel ชิลไปไหน และ ไปเที่ยวกันนะ
แนะนำเที่ยวไปกับเช่ารถตู้เชียงรายVIP โดย VANHIREVIP.COM